จิบกาแฟ ช่วยโค้ชชี่

ควันกาแฟร้อนที่ลอยฟุ้งจากแก้ว กลิ่นหอมลอยมาแตะที่ปลายจมูก โค้ชค่อยๆยกแก้วกาแฟร้อนขึ้นจิบช้าๆ จังหวะเวลาที่ผ่านไปอย่างเนิบช้านั้นกลับทำให้ผู้รับการโค้ชปิ๊งแว้บได้คำตอบในสิ่งที่กำลังค้นหา

เดือนนี้ทำงานโค้ชออนไลน์กับลูกค้าหลายคนเพราะสถานการณ์ Covid-19 ไม่อำนวยให้เราเดินทางไปพบกัน ผู้รับการโค้ชหลายคนก็สะดวกที่จะรับการโค้ชอย่างต่อเนื่องผ่าน Online Planform ต่างๆไม่ว่าจะเป็น zoom หรือแบบที่ง่ายที่สุดคือ Line VDO Call

การพูดคุยกันในเวลาโค้ชชิ่ง บางจังหวะผู้รับการโค้ชก็คิดเร็วตอบเร็ว บางจังหวะก็ใช้เวลาใคร่ครวญสักพักจึงจะตอบคำถามได้ จากประสบการณ์ของโค้ชเราพบว่าการที่โค้ชชี่ตอบได้เร็วมักเป็นสิ่งที่เขารู้อยู่แล้วหรือทำอยู่แล้ว เรามักจะถามตามไปหรือที่เราเรียกว่าการ Probe เพื่อให้เขาคิดได้ดียิ่งขึ้น จังหวะการตอบของโค้ชชี่ก็จะค่อยๆช้าลงเพราะต้องค่อยๆคิดตามไป

ครั้งนี้ที่โค้ชออนไลน์ เป็นจังหวะที่ผู้รับการโค้ชพูดถึงความคิดและสิ่งที่คิดออกมาพอสมควรแล้ว แต่กลิ่นกาแฟร้อนตรงหน้าโค้ชหอมจนโค้ชต้องยกแก้วกาแฟขึ้นมาดื่ม จังหวะที่เงียบนั้นกลับทำให้โค้ชชี่พูดในสิ่งที่เขาเพิ่งจะปิ๊งแว้บได้ลึกซึ้งมากกว่าเดิมอีก แบบที่ภาษาโค้ชเราเรียกว่าเกิด Insight ขึ้นนั่นเอง เป็นจังหวะที่ทรงพลังมากและเกิดในจังหวะที่ไม่ได้คาดคิดมาก่อน

การปล่อยให้เวลาผ่านไปอย่างเนิบช้า นำไปสู่การตกผลึกทางความคิดที่ชัดเจน

เรื่องนื้ทำให้คิดถึงการโค้ชแบบพบหน้ากัน บางครั้งเมื่อถามคำถามชวนคิดไปแล้วพบว่าผู้รับการโค้ชต้องใช้เวลาในการคิด โค้ชก็ตั้งใจพูดขึ้นว่า “ค่อยๆคิดได้เลยนะคะ เดี๋ยวหนิงเอาแก้วไปเติมน้ำก่อนค่ะ” หรือบางครั้งก็บอกว่า “เดี๋ยวหนิงไปชงกาแฟนะคะ สัก 2 นาทีค่อยเข้ามาค่ะ” การตั้งใจให้เวลาเพื่อคิดแบบนี้มีความสำคัญอย่างมากโดยเฉพาะเวลาที่โค้ชชี่กำลังคิดในมุมที่ไม่เคยคิดมาก่อน คิดในแบบด้านที่แทบจะเป็นไปไม่ได้ เรื่องที่เป็นความคิดสร้างสรรค์ เป็นต้น

ช่วงเวลาที่เกิดความเงียบแบบนี้ไม่ใช่ dead air ที่พูดไม่ออก คิดไม่ได้ แต่เป็นช่วงเวลาที่อำนวยให้โค้ชชี่คิดได้ต่างหาก ซึ่งใช้ได้ผลดีทั้ง โค้ชชิ่ง ต่อหน้าและการโค้ชแบบออนไลน์

โค้ชจึงไม่ต้องกังวลว่าจะกำจัดความเงียบอย่างไรในระหว่างโค้ชชิ่ง

และครั้งนี้การจิบกาแฟ ก็ช่วยให้โค้ชชี่ค้นพบในสิ่งที่ต้องการ