ยิ่งเครียดยิ่งพัง ผู้นำต้องทำอย่างไร

ความเครียด

เคยไหม อะไรๆก็ประดังเข้ามา ยุ่งมากก็เครียดมาก ยิ่งเครียดก็ยิ่งพัง ถ้าอยากจะเอาให้อยู่หมัดจะต้องทำยังไงหล่ะ

ในฐานะโค้ช สังเกตเห็นความคล้ายกันของโค้ชชีว่าถ้าทำนัดการโค้ชเป็นวันศุกร์บ่าย มักจะมาด้วยความยุ่งเหยิง เครียด มีความกดดัน บางคนก็เล่าเรื่องราวมากมายตลอดสัปดาห์ บางคนก็พูดสั้นๆ ผมเหนื่อย

สองปีกว่าที่เกิดโรคระบาดโควิด ส่งผลกระทบไปทั่วทุกอุตสาหกรรมและเกิดไม่น้อยหน้ากันเลยไม่ว่าจะอยู่มุมไหนของโลกนี้ การเปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำงาน การแข่งขันในธุรกิจ ภารกิจของผู้นำองค์กรก็ปรับตลอดเวลาแบบที่เรียกว่ากระพริบตาไม่ได้เลยทีเดียว ไหนจะลูกค้าภายใน ลูกค้าภายนอก บริหารคนในทีมตัวเองที่มีความพร้อมและความสามารถในการปรับตัวได้ไม่เท่ากัน แถมยังต้องทำอะไรอีกมากมายเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้แล้ว

ในฐานะโค้ช อยากจะแชร์จากประสบการณ์ให้อ่านว่าคนแบบไหนบ้างที่ยังอยู่รอดได้

คุณลักษณะของผู้นำที่มักจะฝ่าฟันสถานการณ์แบบนี้ไปได้มักจะมี Agility และ Resilience ถ้าอธิบายด้วยภาษาที่เข้าใจง่ายๆคือ มีความว่องไว เต้นฟุตเวิร์คตลอดเวลา พร้อมจะขยับ ปรับ พุ่ง ไปในทิศทางที่น่าจะใช่ได้อย่างรวดเร็ว และถ้าไปแล้วพบว่าไม่เวิร์คก็พร้อมจะเปลี่ยนทิศทางหรือเปลี่ยนวิธีการทันที หากพลาดพลั้งหรือล้มคลุกคลาน ก็สามารถลุกขึ้นมาแล้วเต้นฟุตเวิร์คต่อได้เร็ว

พฤติกรรมที่โค้ชเห็นบ่อยคือ เขาจะมี Thinking หลายชุด เริ่มจาก การคิดเป็นระบบ รู้ว่าต้นทางถึงปลายทางเป็นอย่างไร ตรงไหนที่ต้องปรับใหม่เพื่อให้ได้ผลอะไร การคิดแบบมีกลยุทธ์ คือรู้เป้าหมาย รู้เงื่อนไข และวางแผนแต่ละขั้นตอนชัดเจน บอกได้ว่าแต่ละขั้นตอนนั้นหวังผลอะไร เชื่อมต่อกันอย่างไร

วิธีการคิดที่โดดเด่นในระยะหลังๆนี้ จะเป็นการคิดที่สะท้อนตัวเองของผู้นำ มองเข้าไปในตัวเองมากกว่ามองสิ่งอื่นนอกตัวเอง เชื่อมโยงความคิด การกระทำ คุณค่า และเป้าหมายต่างๆ คล้ายกับการพูดคุยกับภายในตัวตนของตัวเอง อะไรที่เชื่อมโยงสอดคล้อง อะไรที่รู้สึกไม่ค่อยลงตัว ตั้งแต่ระดับความคิด พฤติกรรม และความรู้สึก

นอกจากนี้การให้ทีมเข้ามามีส่วนร่วม การมอบหมายงาน ส่งเสริมให้เขาได้แสดงความคิด แชร์มุมมอง มีส่วนร่วมในการแก้ปัญหา ให้โอกาสได้แสดงฝีมือด้วยวิธีการของเขา ได้ร่วมพูดคุย โค้ช เมนเทอร์ ให้คำปรึกษา และขยายของเขตความสัมพันธ์จากการเป็นทีมงานเป็นเพื่อนร่วมงาน เป็นเพื่อนมนุษย์ รู้จักกันมากขึ้นนอกเหนือจากบริบทของงาน

สิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับผู้นำในยุคใหม่นี้ที่จะอยู่รอดได้คือ Mindset ที่ต้องอัพเดตแล้ว เราจะเรียกว่า Growth Mindset หรืออะไรก็ได้ ที่ทำให้ผู้นำไม่จำกัดตัวเองอยู่ด้วยมุมมองเดิม ประสบการณ์เดิม วิธีการเดิมๆ ต้องเปิดทางให้กับตัวเองและทีมได้เห็นโอกาสใหม่ๆ มองเข้ามาหรือมองออกไปจากมุมอื่นบ้าง เรียนรู้จากทุกสถานการณ์ไม่ว่าจะสำเร็จหรือพลาดไป รู้ตัวเสมอว่ากำลังอยู่ในโหมดเดิมหรือโหมดที่อัพเดตแล้ว รับฟังและกล้าทดลองมากขึ้น เป็นต้น

ผู้นำที่จะพาทั้งตัวเองและองค์กรรอดพ้นความโกลาหลในยุคนี้ไปได้ ต้องมีทั้งพฤติกรรม ความคิด และ Mindset แบบทันสมัย ต้องปรับตัวอยู่เสมอ และไม่ลืมที่จะทบทวนตัวเองให้เป็นกิจวัตร


ดร.หนิง ดไนยา ตั้งอุทัยสุข

ติดตามได้ทาง Line OA คุณจะไม่พลาดบทความพัฒนาผู้นำจากเรา
https://lin.ee/CWQqKwT 

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้