งานไม่ท้าทาย

งานไม่ท้าทายแล้ว แต่ก็ยังไม่อยากลาออก ทำอย่างไรดี

คนทำงานเก่งมาถึงจุดที่ทุกปัญหาเขา “เอาอยู่” งานนี้ไม่ท้าทายแล้ว แต่ไม่อยากลาออก ทำอย่างไรดี

ผู้จัดการมาหาโค้ชพร้อมโจทย์ว่าเขาอยากตัดสินใจ ไม่รู้ว่าจะเลือกเส้นทางไหนดี เขาเป็นคนที่มีความเก่งหลายด้านทั้งในเชิงความรู้เกี่ยวกับงาน อุตสาหกรรมที่เขาอยู่ และที่โดดเด่นคือการจัดการปัญหาต่างๆที่เข้ามา นอกจากแก้ปัญหาเก่งแล้วเขายังวางระบบเพื่อป้องกันปัญหาในอนาคต กำหนดกระบวนการต่างๆเพื่อให้ทีมของเขารับมือกับแต่ละเรื่องได้ด้วย เวลาผ่านไป 2 ปีทุกอย่างเริ่มนิ่ง ไม่ใช่ไม่มีปัญหาหรือเรื่องใหม่ๆให้เขาต้องคิดและจัดการ แต่ทุกอย่างดูเหมือนจะเริ่มซ้ำเป็นไซเคิลที่เขาแทบจะคาดเดาได้ ไม่มีอะไรที่ท้าทายอีกต่อไปแล้ว เขาหมดไฟและเริ่มจะคิดว่าตัวเองไม่ได้สร้างคุณค่าอะไรให้องค์กร

โค้ชคะ ฉันไม่รู้จะตัดสินใจอย่างไรดี ฉันยังต้องการความมั่นคงทางรายได้พอสมควรเพราะยังอยู่ในช่วงสร้างตัว ถ้าลาออกไปเฉยๆคงจะมีความเสี่ยงอยู่มาก แต่อยู่ต่อไปก็เกรงใจองค์กรเพราะตัวเองไม่ได้สร้างคุณค่าอะไรนัก ทุกอย่างน้องในทีมจัดการเองได้แล้ว

ขอบคุณนะคะที่แชร์ความรู้สึกอย่างจริงใจให้โค้ชฟัง อยู่ต่อก็รู้สึกไม่ดี จะจากไปก็เสี่ยง

ใช่เลยค่ะ ฉันไม่อยากจมกับความรู้สึกนี้เลยมาคุยกับโค้ช

งั้นเรามาช่วยกันคิดดีไหมคะว่าคุณลักษณะที่โดดเด่นของคุณคืออะไรบ้าง เผื่อเราจะใช้เป็นจุดเริ่มต้นของการตัดสินใจ

ดีเลยค่ะ ถ้าคุยภาษา Pattern Scanner ก็คือ เป็นคน Mismatch-มองเห็นจุดบกพร่องได้ง่าย, Option-หาทางเลือกใหม่ได้เสมอ, Big Picture-รู้ว่าแต่ละเรื่องเชื่อมโยงกันอย่างไร, แล้วก็เป็นคน Thinking-คือรับมือกับความเครียดได้โดยไม่รู้สึกเครียด ตอนนี้อาจจะไม่ค่อยได้ใช้ความถนัดเหล่านี้มั้งคะ เลยไม่ค่อยสนุกแล้วพาลไปรู้สึกแย่กับตัวเองว่าไม่ได้ทำอะไร

แล้วถ้ามองไปรอบๆตัวในองค์กร คุณจะสามารถใช้ความถนัดที่เล่ามาตรงไหนได้บ้าง

มีเยอะแยะเลยค่ะโค้ช บางแผนกก็ยังใช้วิธีการทำงานเดิมๆโฟกัสเฉพาะส่วนของตัวเองยังไม่เชื่อมโยงกันคนอื่น ทำให้ทำงานไม่สัมพันธ์กัน บางคนเห็นปัญหาก็รู้สึกเครียดไม่อยากขัดแย้ง แถมบางคนยังไม่เห็นว่าเรามีอะไรที่ต้องปรับปรุงค่ะ

ได้ยินที่ตัวเองเล่าออกมาแล้ว คิดยังไงคะ

ถึงบางอ้อเลยค่ะ อันที่จริงยังมีงานอีกหลายอย่างที่ฉันจะไปช่วยเขาได้ ฉันจัดการในทีมได้ดีแล้ว อยากไปคุยกับรองประธานค่ะว่าฉันอยากอาสามาช่วยงานพัฒนากระบวนการทำงานเพื่อให้ทำงานประสานกันได้ราบรื่นขึ้น หรืออาจจะเป็นโปรเจ็คพิเศษอะไรที่ผู้บริหารต้องการให้ฉันได้ใช้ความถนัดเหล่านี้ไปช่วย แค่คิดก็เริ่มสนุกแล้วค่ะ

สิ่งที่โค้ชได้ทำคือช่วยสร้างพื้นที่ให้เขาได้พูดความคิดตัวเอง สะท้อนสิ่งที่เขาคิดและรู้สึก ในกรณีนี้ไม่ได้แตะต้องเรื่องการตัดสินใจว่าจะอยู่ต่อหรือลาออก ไม่ได้คุยว่าเขาต้องมีรายได้เท่าไรถึงจะมีความมั่นคงให้ชีวิต แต่มุ่งไปที่เขาจะรู้สึกมีคุณค่าเหมือนเดิมได้อย่างไร

การโค้ชช่วยให้เกิดความตระหนักรู้ ซึ่งจะทำให้เขานำศักยภาพของตัวเองออกมาใช้ เพื่อเดินหน้าสู่สิ่งที่เขาต้องการ

 

ดร.หนิง ดไนยา ตั้งอุทัยสุข

โค้ชผู้บริหารและนักพัฒนาผู้นำ

ติดตามได้ที่ Line @ExcellenceResource เพื่ออัพเดตสิ่งที่ต้องรู้และคุณจะไม่พลาดเนื้อหาการพัฒนาผู้นำ